ธีรเทพ วิโนทัย ชี้ว่า โควตาอาเซียน ไร้ประโยชน์ต่อไทยลีก
วันที่ 6 มีนาคม 2568 “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย อดีตกองหน้าทีมชาติไทย ให้สัมภาษณ์กรณีโควตานักเตะต่างชาติที่สโมสรจากไทยคว้าตัวมาร่วมทีมโดยเฉพาะตำแหน่งกองหน้าและกองหลัง ซึ่งมองว่าโควตาอาเซียน ไม่สำคัญ
“คือถามว่ามันจะเป็นปัญหาไหม มันไม่เชิงปัญหาหรอก แต่ผมมองว่ามันควรจะต้องมีตัวเลือกที่มันมากกว่านี้นะครับ มันก็ย้อนกลับไปถึงในลีกว่ามันเป็นเรื่องของโควต้าต่างชาติที่เอาเข้ามา ตอนนี้หลักๆในสโมสรโควต้าต่างชาติคือศูนย์หน้าแน่ๆ หนึ่ง สองก็คือเรื่องของเซ็นเตอร์ฮาร์ฟกองหลังซึ่งมันเป็นตําแหน่งใหญ่ๆ ที่มัน เราควรจะต้องมีบุคลากรของเราหรือนักเตะของเราที่มารอส่งเสริมรอขึ้นมาเสริมมาต่อเติมช่วงรอยต่อให้ได้มากอย่างเงี้ย แต่ว่ามันก็ยากเพราะว่าอย่างที่บอกมันเป็นโควต้าแบบเนี้ยเขาสโมสรก็ต้องเลือกเลือกตัวผู้เล่นต่างชาติที่แบบดีดีเข้ามาอุดรอยรั่วตรงเนี้ยซึ่งมันทําให้โควต้านักเตะรายมันหายไปเยอะโดยเฉพาะกองหน้าคือมันมีมันมีจริงอะตอนเนี้ยแต่ว่า บางทีบางคนก็อาจจะประสบการณ์น้อยหนึ่ง สองคุณภาพหรือการเล่นที่ต่อเนื่องกันจากสโมสรมันก็น้อยอะไรอย่างเงี้ย ซึ่งตรงเนี้ยมันไม่เหมือนในก่อนหน้านี้ที่มันพอโควตาน้อยๆแล้วเด็กไทยไม่ได้เล่นเยอะอะไรเงี้ย มันก็ทําให้เขาได้ลงเล่นสม่ำเสมอ ซึ่งตรงนี้ผมว่าก็ยังเป็นปัญหาอยู่ เพราะฉะนั้นเนี่ยก็ยังต้องลองดูแล้วกันครับ อันนี้เป็นสิ่งที่ผมรู้สึกในความรู้สึกผมเองอะนะ ที่อย่างโควตาต่างชาติมันน้อยลง โอเค โควตาต่างชาติพอได้”
“แต่โควตาอาเซียน อันนี้ผมไม่เห็นด้วย ผมไม่เคยคิดว่าเขาจะมาช่วยอะไรเราได้เลยในอาเซียน ถามว่าเราจะมองเขาเรื่อง เผื่อเขาจะมาซื้อลิขสิทธิ์เราไปดู ผมไม่เห็นมีชาติไหนในอาเซียน ที่เขาซื้อลิขสิทธิ์เราไปดูเลย เพราะฉะนั้น เราไม่จําเป็นต้องเอาเขามาบ่มเพาะมาส่งเสริมให้เขามาเก่ง แล้วเขากลับมาเล่นทีมชาติแล้วก็มาเล่นกันที มาเล่นเป็นคู่ต่อสู้กับทีมชาติไทยเราเงี้ย ซึ่งผมรู้สึกว่า เราไม่จําเป็นจะต้อง เขาเรียกว่าไร เป็นพ่อพระ จะต้องอะไรอย่างเงี้ย ไม่เอาแล้ว เราต้องการความสําเร็จ เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด เราไปเอ็นดูเขาเราจะเอาเขามานู่นนี่นั่น ถึงเวลาเขาไม่ได้สนใจเลย เขากลับไปทีมชาติเขา เด็กเขาพร้อมมาก นักเตะเขาพร้อมแล้วเขามาชนะทีมชาติไทยเรา สุดท้ายเราก็เป็นรองเขาอีก ซึ่งผมรู้สึกว่า สิ่งนี้เราควรจะต้องมองตัวเองบ้าง มองผลกระทบที่มันเกิดขึ้นกับบ้านเราเองบ้าง ทีมเราเองบ้าง เขาอยากให้มันเป็นอย่างนั้น”
“แต่โควตาอาเซียน อันนี้ผมไม่เห็นด้วย ผมไม่เคยคิดว่าเขาจะมาช่วยอะไรเราได้เลยในอาเซียน ถามว่าเราจะมองเขาเรื่อง เผื่อเขาจะมาซื้อลิขสิทธิ์เราไปดู ผมไม่เห็นมีชาติไหนในอาเซียน ที่เขาซื้อลิขสิทธิ์เราไปดูเลย เพราะฉะนั้น เราไม่จําเป็นต้องเอาเขามาบ่มเพาะมาส่งเสริมให้เขามาเก่ง แล้วเขากลับมาเล่นทีมชาติแล้วก็มาเล่นกันที มาเล่นเป็นคู่ต่อสู้กับทีมชาติไทยเราเงี้ย ซึ่งผมรู้สึกว่า เราไม่จําเป็นจะต้อง เขาเรียกว่าไร เป็นพ่อพระ จะต้องอะไรอย่างเงี้ย ไม่เอาแล้ว เราต้องการความสําเร็จ เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด เราไปเอ็นดูเขาเราจะเอาเขามานู่นนี่นั่น ถึงเวลาเขาไม่ได้สนใจเลย เขากลับไปทีมชาติเขา เด็กเขาพร้อมมาก นักเตะเขาพร้อมแล้วเขามาชนะทีมชาติไทยเรา สุดท้ายเราก็เป็นรองเขาอีก ซึ่งผมรู้สึกว่า สิ่งนี้เราควรจะต้องมองตัวเองบ้าง มองผลกระทบที่มันเกิดขึ้นกับบ้านเราเองบ้าง ทีมเราเองบ้าง เขาอยากให้มันเป็นอย่างนั้น”